วิปฏิสาร - วิปัสสนาญาณ

วิปฏิสาร ความเดือดร้อน, ความร้อนใจ เช่น ผู้ประพฤติผิดศีล เกิดความเดือดร้อนขึ้นในใจ ในเพราะความไม่บริสุทธิ์
ของตนเรียกว่า “เกิดวิปฏิสาร”

วิปปวาส อยู่ปราศ เป็นประการหนึ่ง ในรัตติเฉท การขาดราตรีแห่งการประพฤติมานัตและการอยู่ปริวาส; สำหรับผู้
ประพฤติมานัต วิปปวาส หมายถึงอยู่ในถิ่น (จะเป็นวัดหรือที่มิใช่วัดเช่นป่าเป็นต้นก็ตาม) ที่ไม่มีสงฆ์อยู่เป็นเพื่อน คือ
อยู่ปราศจากสงฆ์, สำหรับผู้อยู่ปริวาส หมายถึง อยู่ในถิ่นปราศจากปกตัตตภิกษุ (มีปกตัตตภิกษุอยู่เป็นเพื่อรูปเดียวก็
ใช้ได้) ดู รัตติเฉท

วิปริณาม ความแปรปรวน, ความผันแปรเปลี่ยนแปลงเรื่อยไป

วิปลาส, พิปลาส กิริยาที่ถือโดยอาการวิปริตผิดจากความเป็นจริง, ความเห็นหรือความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากสภาพที่
เป็นจริง มีดังนี้; ก. วิปลาสด้วยอำนาจจิตต์และเจตสิก ๓ ประการ คือ ๑. วิปลาสด้วยอำนาจสำคัญผิด เรียกว่า “สัญญา-
วิปลาส
” ๒. วิปลาสด้วยอำนาจคิดผิด เรียกว่า “จิตตวิปลาส” ๓. วิปลาสด้วยอำนาจเห็นผิด เรียกว่า “ทิฏฐิวิปลาส” ข. วิป-
ลาสด้วยสามารถวัตถุเป็นที่ตั้ง ๔ ประ การ
คือ ๑. วิปลาสในของที่ไม่เที่ยง ว่าเที่ยง ๒. วิปลาสในของที่เป็นทุกข์ว่า
เป็นสุข ๓. วิปลาสในของที่ไม่ใช่ตนว่าเป็นตน ๔. วิปลาสในของที่ไม่งามว่างาม

วิปัสสนา ความเห็นแจ้ง คือเห็นตรงต่อความเป็นจริงของสภาวธรรม; ปัญญาที่เห็นไตรลักษณ์อันให้ถอนความหลง
ผิดรู้ผิดในสังขารเสียได้, การฝึกอบรมปัญญาให้เกิดความเห็นแจ้งรู้ชัดภาวะของสิ่งทั้งหลายตามที่มันเป็นของมันเอง
(ข้อ ๒ ในกัมมัฏฐาน ๒ หรือภาวนา ๒) ดู ภาวนา, ไตรลักษณ์

วิปัสสนากัมมัฏฐาน กรรมฐานคือวิปัสสนา ดู วิปัสสนา

วิปัสสนาญาณ ญาณที่นับเข้าในวิปัสสนาหรือญาณที่จัดเป็นวิปัสสนามี ๙ อย่าง คือ ๑. อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ ญาณ
ตามเห็นความเกิดและความดับแห่งนามรูป ๒. ภังคานุปัสสนาญาณ ญาณตามเห็นจำเพาะความดับเด่นขึ้นมา ๓. ภยตู
ปัฏฐานญาณ
ญาณอันมองเห็นสังขารปรากฏเป็นของน่ากลัว ๔. อาทีนวานุปัสสนาญาณ ญาณคำนึงเห็นโทษ ๕. นิพ-
พิทานุปัสสนาญาณ
ญาณคำนึงเห็นด้วยความหน่าย ๖. มุจจิตุกัมยตาญาณ ญาณหยั่งรู้อันให้ใคร่จะพ้นไปเสีย ๗. ปฏิ-
สังขานุปัสสนาญาณ
ญาณอันพิจารณาทบทวนเพื่อจะหาทาง ๘. สังขารุเปกขาญาณ ญาณอันเป็นไปโดย ความเป็น
กลางต่อสังขาร ๙. สัจจานุโลมิกญาณ ญาณเป็นไปโดยควรแก่การหยั่งรู้อริยสัจจ์