| โรคประสาทหรือเปล่า 
        ?  ******************************** | |||
| ต้นข้าวที่ดี ย่อมค้อมหัวลงสู่แผ่นดิน เนื่องจากมีเมล็ดข้าวเต็มรวง จะมีก็แต่ต้นข้าวที่เมล็ดลีบ-แฟบ | |||
| ยืนทำเป็นเชิดหน้าท้าทายผู้คนิย่างอหังการ..! ความถ่อมตนยอมเป็นคุณธรรม นำพาชีวิตพ้นอับปาง 
      พ้นหินโสโครก ความยโสอวดดี ความสำคัญตนผิด ย่อมมีโอกาสผิดพลาด พาเรือพินาศล่ม..! | |||
| "โรคประสาทหรือเปล่า ?" ทางจิตวิทยาถือสากันมาก You are what you think เธอคิดอย่างไร | |||
| เธอก็จะเป็นคนอย่างที่เธอคิด..! | |||
| แต่กฎบางกฏก็มีข้อยกเว้น คุณเคยมีอาการเหล่านี้บ้างไหม ? | |||
| -เมื่อรู้สึกคนรอบข้างไม่จริงใจกับเรา -เมื่อรู้สึกเพื่อนฝูงทำไมโกรธเคืองเราอย่างง่าย ๆ -ความสุขในชีวิตประจำวันช่างหายาก -จิตใจเศร้าหมองเสมอ -มีเรื่องอึดอัดขัดเคืองกันทุกบ่อย -มีเรื่องทะเลาะขัดแย้งกันเป็นประจำ -รู้สึกจะเป็นจะตายกับปัญหาที่เกิดขึ้น -ชีวิตทำไมไม่ค่อยมีกำลังใจ -ความคิดของฉันถูกต้อง ความคิดของพวกเธอไม่ค่อยเข้าท่า | |||
| ถ้าไม่ค่อยเป็นบ่อยกับชีวิต ก็ลืมคำนี้ไปได้ แต่หากใครอุทาน "ใช่แล้ว ฉันเป็นบ๊อยบ่อย" ขอให้ลงมือ | |||
| ปฏิบัติทันที | |||
| "โรคประสาทหรือเปล่า?" ตั้งนะโมกับตัวเองสักหลาย ๆ ครั้ง แน่ใจหรือว่า ปัญหารอบ ๆ ตัวเรา | |||
| คือปัญหา ? | |||
| หรืออาจจะมิใช่เป็นปัญหา 
      แต่เราถือสาเกินจริง ? เพื่อนมีปัญหา หรือว่า...เป็นที่เรามีปัญหา ? | |||
| โลกกลม ๆ ใบนี้ ก็แสนตลก คนเป็นมักไม่รู้ แต่คนรู้มักไม่เป็น... ! | |||
| หากชีวิต คือการเดินทาง "ความฉลาด" คือเสบียงกรังแห่งการเดินทางรอนแรม ฉลาดที่จะต้อง้ | |||
| รู้เท่าทันตัวเอง...! | |||
| เมื่อสามเณรกำลังถกเถียงกัน "ธงโบก หรือ ลมโบก ?" ท่านเว่ยหล่าง พลันปลุกดวงจิตให้โชติช่วง | |||
| "ใจเธอสิโบก..!" มองตน อ่านตนให้เก่ง จับอารมณ์ให้ทัน ความทุกข์ร้อนจะค่อย ๆ ผ่อนคลาย | |||
| ใครจะว่นวาย ใครจะอย่างไรก็เรื่องของเขา คุมสถานการณ์ ดูจิตใจของเราเป็นพอ | |||
| "โรคประสาทหรือเปล่า?" แม้เรียนสูง ก็ใช่ว่าจะพารอด บางทีความฉลาดอาจพาตัวเองดิ่งลึกในความโง่ | |||
| เมื่อภิกษุ ๓ รูป ตั้งสัจจะ เราจะไม่พูดตลอดราตรี แต่เมื่อตะเกียงเริ่มริบหรี่ ภิกษุรูปแรกทนไม่ได้ | |||
| ร้องตะโกนให้ใครมาเติมน้ำมัน | |||
| รูปที่ 
      ๒ ทวนสัจจะ "ไหนว่าจะไม่พูดเอ่ย ?" รูปที่ ๓ ยิ้ม.. รำพึงสบาย ๆ "มีแต่เราเท่านั้นที่ยังไม่พูด..." | |||
| "รู้ตน" 
      ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การน้อมรับคำติเตียน คำสั่งสอนได้ "สภาพรู้ตน" 
      จะเริ่มเบ่งบาน ในโลกนี้ยังมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายที่อายตนะของเรา "ผิดพลาด" รับผัสสะไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง | |||
| "โรคประสาทหรื่อเปล่า?" เตือนตนไว้แหละดีหากทุกข์กระจุ๊กกระจิ๊ก ทุกข์สารพัดสารเพ | |||
| ถามตัวเอง เป็นอาการโรคประสาทไหมเนี่ย ? แม้ไม่เป็นก็จะได้หายคึกคะนอง... หายเพ่งโทษผู้อื่น... | |||
| หายซ่าส์ | |||
| ใครจะอย่างไรก็ช่างเขาจับ 
      "อกุศ ล" ในตัวเราให้ทันดีกว่า "โรคประสาทหรือเปล่า?" " ถ้าจะใช่นะเรา..!" คิดแบบนี้ก็ดีเหมือนกันจิตใจจะได้อ่อนโยนขึ้น ไม่มองคนด้วยสายตาขวางๆ | |||
| ที่มา : วารสาร "ดอกหญ้า" อันดับที่๑๐๑ ISSN ๐๘๕๗-๗๕๘๗ "ฉบับจุดเทียนพรรษา" หน้า ๕๘ | |||
| กลับไปหน้าแรก | |||