พระครูดิตถารามคณาศัย (1) วัดท่าไทร เมืองสุราษฎร์ธานี

               วัดท่าไทร อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีต คือ พระครูดิตถารามคณาศัย (ชม คุณาราโม) ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้

               เป็นวัดที่มีประเพณีการทอดผ้าป่าอัน น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง มีความเป็นมาอย่างน่าติด ตาม กล่าวคือ การทอดผ้าป่าแด่พระภิกษุสงฆ์ที่จำ พรรษาในวัดต่างๆ ในวันออกพรรษาของจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 นิยมจัดผ้าป่าอันเป็นบังสุกุลจีวร พร้อมด้วยเครื่องบริวารต่างๆ ที่จะขาดเสียมิได้คือ ผ้าหนึ่งผืนเพื่อให้พระสงฆ์พิจารณา และอาหารปิ่นโต 1 เถา เพื่อถวายให้พระท่านได้ฉัน ส่วนสิ่งของนอกจากที่กล่าวมานั้นก็ มีการจัดถวายพระสงฆ์ตามกำลังศรัทธา โดยนิยม จัดพุ่มผ้าป่าไว้บริเวณหน้าบ้าน มีเลขหมายประจำพุ่มไว้ บางบ้านก็จัดทำพุ่มผ้าป่าอย่างงดงามและมีการประกวดกัน มีกรรมการซึ่งทางเทศบาลได้จัดตั้งขึ้นพิจารณาให้ได้รับรางวัล เป็นเกียรติ เป็นที่ระลึกในการบำเพ็ญกุศล ผู้จัดคือ เทศบาลและอำเภอร่วมกัน ได้นำสลากนั้นๆ ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ โดยไม่จำเพาะเจาะจงแล้วแต่ท่านจะจับสลากได้ ก็นิมนต์ไปชักผ้า ป่าตามสถานที่นั้นๆ ในเวลาเช้าตั้งแต่ 06.00 น. เป็น ต้นไป อันนับว่าเป็นกุศลสังฆทานในพระพุทธศาสนาประการหนึ่ง


               พระมหาบุญโฮม ปริปุณฺณสีโล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าไทร ได้กล่าวถึงประเพณีการทอดผ้าป่าของจังหวัดสุราษฎร์ธานีไว้ในหนังสือพิมพ์ "กระแสข่าว" ฉบับประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2547 ว่า

               "ประเพณีการทอดผ้าป่าในเทศกาลวันออกพรรษา ซึ่งตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของจังหวัดสุราษฎร์ธานีตามที่ได้กระทำกันอยู่ ณ บัดนี้ ได้มีนาง พยอม นามสกุลเดิมคือ เริ่มก่อสกุล (ธิดาของนายเอม นางขำ เริ่มก่อสกุล) ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ตลาดท่าทองใหม่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็น ผู้ริเริ่มจัดให้มีประเพณีทอดผ้าป่าออกพรรษาขึ้น ณ วัดท่าไทร ตำบลท่าทองใหม่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทุกวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 (หลังออกพรรษา 1 วัน) ขณะเดียวกันได้จัดให้มีการชักพระ (ชักลากพระ) โดยใช้เรือทางน้ำ เรือทางบกเพื่อ ให้ประชาชนทั่วไปได้สักการบูชาให้เกิดสิริมงคลในโอกาสออกพรรษา เทียบเคียงการจัดฉลองวัดเทโวโรหณะในอดีตกาลครั้งพระพุทธเจ้ายัง ทรงมีพระชนม์อยู่ และมีการละเล่นกีฬาทั้งทางบกและทางน้ำอย่างสนุกสนาน ซึ่งประเพณีดังกล่าวยังได้รับการอนุรักษ์ให้มีอยู่จวบจนกระทั่งปัจจุบัน


               ต่อมานางพยอม เริ่มก่อสกุล ภายหลังสมรสกับนายฉาย สารสิน จึงได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น สารสิน ตามสามี ได้ย้ายไปอยู่กับสามีที่ตรอกไม้ไผ่งาช้าง ข้างวัดกลางในตลาดบ้านดอน และได้จัดให้มีประเพณีดังกล่าวขึ้นอีกที่บ้านดอน (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีในปัจจุบัน) เมื่อ พ.ศ.2471 โดยเริ่มแรกได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์จากวัดท่าไทรเป็นหลักในการไปพิจารณาผ้าบังสุกุล ซึ่งภายหลังเจ้าอาวาสวัดท่าไทรในขณะนั้นก็ได้แนะนำให้นิมนต์พระภิกษุซึ่งจำพรรษาอยู่ในวัดที่อยู่ในบ้านดอนซึ่งใกล้บ้านไปพิจารณาชักผ้าบังสุกุล (ผ้าป่า) ด้วย จึงถือเป็นประเพณีปฏิบัติซึ่งได้กระทำกันสืบมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้

ที่มา1.- นสพ.ข่าวสด
ที่มา2.-
http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=534549334&Ntype=40
(เว็บไซต์ พระเครื่องตั้มศรีวิชัย พระเครื่อง จตุคาม รามเทพ เครื่องรางของขลัง 99/1 ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช 80220 Tel: 081-9565997
)